วุฒิ รัตนวุฒิ ชูรัศมีใกล้งานแสดงสินค้าแฟชั่นและงานแสดงสินค้าเครื่องหนัง หรือ Biff & Bil 2013 เข้าไปทุกที วุฒิ – รัตนวุฒิ ชูรัศมี มีงานที่ต้องทำมากมาย ทั้งเตรียมการเจรจาธุรกิจ เตรียมจัดแฟชั่นโชว์ ทุกอย่างต้องพร้อมสำหรับการเปิดตัวแบรนด์เสื้อผ้าใหม่ฝีมือศิลปินไทย “Phann” หรือ “ปั้น” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “A Sophisticated Design by Art”

วุฒิพูดถึงชื่อแบรนด์เสื้อผ้าของเขากับเพื่อน ๆ ว่า “Phann มีความหมายคือ ปั้นมาจากฝีมือคนไทย คือเราต้องการมีแบรนด์ มีชื่อซักชื่อหนึ่งสั้น ๆ แล้วสื่อถึงความหมายของศิลปะแบบมีความเป็นแฮนด์เมดเข้าไปด้วย เพราะว่าถึงแม้จะเป็นบริษัท เราก็จะใช้งานศิลปะที่มาจากการใช้มือทำขึ้นมาเป็นต้นแบบ”

ภาพแบรนด์เสื้อผ้าหรูที่กำลังจะโกอินเตอร์ในวันนี้ เมื่อลองมองย้อนกลับไปดูที่จุดเริ่มต้นของวุฒิ ใครก็ตามที่อยู่กับเขาตอนนั้นคงนึกภาพไม่ออกว่าเขาจะมาได้ไกลขนาดนี้ จากพื้นฐานครอบครัวฝั่งแม่ที่เป็นข้าราชการ ฝั่งพ่อเป็นชาวสวน วุฒิไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับการทำแบรนด์เสื้อผ้าเลยนอกจากใจที่รักงานศิลปะ

จนกระทั่งวันที่วุฒิได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งของบัณฑิต อึ้งรังษี

“พอไปร้านหนังสือ เห็นหนังสือ “ทำสิ่งที่รักยังไงก็รุ่ง” มันโดนใจว่านาทีนั้นใจอยากทำมาก แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี ก็เลยเริ่มอ่านเล่มนั้น”

หนังสือของบัณฑิต อึ้งรังษี ทำให้วุฒิเริ่มต้นทำความรู้จักกับตัวเอง จากความรักและความถนัดทางศิลปะที่ตัวเองมีอยู่แล้วเป็นทุนเดิม บวกกับการสังเกตบุคลิก นิสัย วิธีการทำงานของตัวเอง จนค้นพบว่าตัวเองไม่ได้ต้องการแค่ทำงานศิลปะเท่านั้น แต่ต้องการผลิตงานศิลปะให้ออกมาในรูปแบบของแบรนด์และมีบริษัทเป็นของตัวเองอีกด้วย

เมื่อเริ่มมองเห็นภาพของตัวเองในอนาคตแล้ว วุฒิจึงลงมือเขียน Dream List ตามคำแนะนำในหนังสือทันที “ถ้าเราเขียนออกมา แล้วมันก็จะชัดเจนว่าต้องทำให้ได้ เพราะว่าถ้าเราแค่รู้สึกว่าจะทำอะไร แค่อยู่ในความคิดเฉย ๆ เดี๋ยวพอเราเจอเรื่องใหม่ ๆ ในชีวิต มันก็จะค่อย ๆ เลือนรางไป บางช่วงก็ลืมไปเลย”

เมื่อจับพู่กันแล้วก็เริ่มวาด มีเป้าหมายแล้วก็ต้องเริ่มก้าวเดิน วุฒิเริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ ที่ทำได้ด้วยตัวเอง จากความตั้งใจที่อยากจะช่วยเหลือสังคมรอบข้างอยู่แล้วบวกกับความสามารถทางด้านศิลปะที่ตัวเองมี วุฒิจึงเปิดเว็บไซต์ชื่อ www.paint-by-me.com รับเพ้นท์เสื้อหารายได้ช่วยเหลือเด็กออทิสติกในจังหวัดสุราษฎร์ธานี

เหมือนเส้นและสีต่าง ๆ ที่เริ่มปรากฏเป็นภาพราง ๆ ผลงานของวุฒิก็เริ่มปรากฏแก่สายตาคนจำนวนมากขึ้น ๆ จนต่อมาได้รับความสนใจจากสื่อ ได้รับเชิญให้ไปออกบูธตามสถานที่ต่าง ๆ บ้าง ไปเพ้นท์เสื้อออกรายการโทรทัศน์บ้าง ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่วุฒิเขียนไว้ใน Dream List ทั้งนั้น

นอกจากนี้ การได้ไปออกงานต่าง ๆ ก็ทำให้วุฒิได้รู้จักกับเพื่อนศิลปินอีกหลายคนที่มีความฝันคล้าย ๆ กัน จนเกิดการรวมตัวกันก่อตั้งเว็บไซต์ www.artist-thailand.in.th นำเสนอผลงานศิลปะหลากหลายแขนง

เหมือนภาพวาดงดงามที่ใครเห็นเป็นต้องหยุดยืนชม ด้วยผลงานโดดเด่นขนาดนี้ การก้าวเข้าสู่โลกธุรกิจก็ง่ายขึ้นมาก มีนักธุรกิจที่สนใจกลุ่มศิลปินของวุฒิ ณ จุดนี้เองการนำเสนอผลงานศิลปะในรูปแบบของแบรนด์จึงได้เริ่มต้นขึ้นตามความฝันที่วุฒิได้เขียนเอาไว้

วุฒิ รัตนวุฒิ ชูรัศมีระหว่างเดินทางตามความฝันของวุฒิ ยังมีหนังสืออีกมากมายหลายเล่มที่เขาพบว่าเป็นเหมือนคลังปัญญาช่วยต่อเติมทางฝันของเขาให้เดินได้ง่ายมากขึ้น มีนักเขียนหลายท่านที่วุฒิชื่นชอบ ตัวอย่างเช่น ฐิตินาถ ณ พัทลุง

“หนังสือของคุณฐิตินาถจะเป็นในแง่มุม คลี่คลายปมและเยียวยาจิตใจให้เข้มแข็ง” วุฒิกล่าวถึงสิ่งที่ชอบในหนังสือชุด “เข็มทิศชีวิต” ของ ฐิตินาถ ณ พัทลุง นอกจากนี้เรื่องราวมรสุมชีวิตของผู้เขียนยังเป็นตัวอย่างประสบการณ์ชั้นดีที่วุฒิได้เรียนรู้และนำไปปรับใช้กับตัวเองอีกด้วย

พระอาจารย์ ว. วชิรเมธี เป็นอีกหนึ่งพระนักเขียนที่วุฒิติดตามอ่าน โดยเฉพาะในแง่มุมที่ใช้ธรรมะเชื่อมโยงกับการทำงาน วุฒิยกตัวอย่างหนังสือ “เคล็ดลับหัวใจเศรษฐี” ซึ่งทำให้เขาเชื่อว่าการมีธรรมะในจิตใจจะทำให้เราเป็นที่รักของคนรอบข้าง “ธุรกิจจะเริ่มขึ้นได้เราต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีด้วย เพราะว่าคนที่มาเป็นลูกค้าของเราหรือว่าคนที่เขามาร่วมงานกับเรา เขาจะเต็มใจทำงานกับเราหรือว่าหวังดีต่อเราโดยใจที่แท้จริง ก็เนื่องมาจากความที่ว่าเราดีกับเขาโดยใจจริงด้วย”

และแม้จะเป็นศิลปิน แต่วุฒิก็สนใจเรื่องราวทางวิทยาศาสตร์ด้วยเช่นกัน หนังสือของ หนูดี วนิษา เรซ ที่ใช้หลักวิทยาศาสตร์ทางสมองมาช่วยในการอธิบายเรื่องของการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข การดูแลตัวเอง และการคิดบวก “อัจฉริยะสร้างสุข” ของวนิษา เรซ ก็เลยเป็นอีกหนึ่งเล่มในดวงใจ “ถ้าอ่านหนังสือของพี่หนูดีจะรู้ว่า เราต้องทำอะไรบ้างที่ทำให้สมองเราอยู่ในสภาวะพร้อมที่จะคิด”

วุฒิค้นพบว่าหนังสือของนักเขียนที่ชื่นชอบแต่ละท่านมีความเชื่อมโยงกันอยู่ และเป็นไปในแนวทางที่สอดคล้องกัน “การที่เราอ่านหนังสือของคนที่มีบุคลิก หน้าที่การงาน และการเป็นที่ยอมรับในสังคมที่ดีทุก ๆ ด้านทั้งหมด แล้วเขาคิดตรงกัน อย่างเดียวกัน ในเนื้อหาที่เรารู้สึกได้ว่าเป็นแนวทางเดียวกัน มันก็ทำให้ตอกย้ำความมั่นใจว่า เรามาถูกทางแล้ว ผนวกกับเนื้อหาที่เราอ่านแล้วมันซึมซับเข้าไปในตัวเรา มันก็ทำให้เรามั่นใจมาก ๆ เห็นภาพชัดว่าความสำเร็จของเราคือรูปแบบไหน มันชัดมากขนาดที่เป็นภาพเคลื่อนไหวในหัวเรา แล้วมันก็จะค่อย ๆ ดำเนินไปตามนั้น มันจะไม่เขวไปทางไหนแล้ว”

วันนี้แบรนด์ Phann ที่วุฒิบรรจงปั้นขึ้นมาด้วยความรักในงานศิลปะ ด้วยอาวุธทางปัญญาที่ได้รับจากนิสัยรักการอ่าน ทำให้ฝีมือศิลปินไทยกำลังจะได้ไปปรากฏแก่สายตาของทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ แน่นอนว่าเขายังคงต้องทุ่มเทปั้นมันต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ไม่ใช่เพราะมันเป็นภาระ แต่เป็นเพราะความสุขใจที่ได้รับเมื่อเห็นความฝันถูกปั้นเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาด้วยมือตัวเอง