สวัสดีค่ะ
งานที่ดีคืออนุสาวรีย์ของชีวิต ..ประโยคนี้จากหนังสือของท่านพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี ยังกึกก้องในความคิดตลอดมา เพื่อให้เราได้ทบทวนว่างานที่เราทำเราทำดีแล้วหรือยัง ถ้าดีแล้วมีประโยชน์พอที่จะเรียกว่า อนุสาวรีย์ ..ของชีวิตได้หรือไม่?
Book Lover Club (Thailand) ก่อตั้งมาจากความตั้งใจที่อยากแบ่งปันหนังสือที่เราชอบให้เพื่อน ๆ ในโลก Social Media ได้รู้จักพร้อมกันนี้เราก็อยากรู้จักหนังสือที่เพื่อน ๆ อ่านบ้าง จึงเกิดการพูดคุยอย่างเมามันทุก ๆ วันตามประสาหนอนหนังสือใน Facebook
พอนานเข้าความสนุกได้แผ่วงกว้างออกไปเรื่อย ๆ เรารู้สึกว่าถ้าได้นั่งพูดคุยในร้านกาแฟ หอม ๆ บรรยากาศดี ๆ น่าจะได้อารมณ์มากกว่า ครั้งแรกของการพบปะจึงเกิดขึ้นในบ่ายวันหนึ่งของวันที่ 30 พ.ค. 2552 พวกเราคือคนแปลกหน้า 8 คนมานั่งคุยกัน บางคนเพิ่งรู้จัก บางคนบังเอิญรู้จัก บางคนเพิ่งมารู้จักที่นี่ …แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้พวกเราเหมือนรู้จักกันมาก่อนคือ….. หนังสือ……..
Like attracts Like …อีกหนึ่งคำในหนังสือ The Secret ยังใช้ได้เสมอ คนเหมือนกันจะถูกดึงดูดเข้าหากัน พวกเรามีความสุขกับการได้แชร์หนังสือที่พวกเราชื่นชอบมาก ๆ บางคนเป็นหนังสือแนวสุขภาพ บางคนเป็นหนังสือของคนไทยเก่ง ๆ ที่เราไม่เคยรู้มาก่อนเลย เนื้อหาในหนังสือคงไม่สนุกเท่ากับการได้นั่งเมาท์กับเพื่อนคอเดียวกัน เรานั่งกันจนถึงเย็นแล้วแยกย้ายกันกลับบ้านพร้อมทั้งได้หยิบยืมหนังสือของเพื่อน ๆ ไป และนั่นคือที่มาที่ทำให้พวกเราต้องเอาหนังสือมาคืนกันในครั้งต่อไปพร้อมทั้งชวนเพื่อน ๆ คนอื่นมาด้วย
การรวมตัวของเราใหญ่ขึ้นทุกวัน พวกเราได้ตกลงกันว่านอกจากเราจะมาคุยกันเองแล้ว เราจะลองเชิญพี่ ๆ นักเขียนที่พวกเราชื่นชอบมาแบ่งปันประสบการณ์กับพวกเราด้วย เราก็กล้า ๆ กลัว ๆ ในครั้งแรก แต่เราอ่านหนังสือมาเยอะจนตระหนักดีว่า ไม่มีอะไรดี ๆ เกิดขึ้นจากความกลัว… ไม่ลองจะรู้ได้ยังไง เรามีหน้าที่เชิญ เขาจะมาหรือไม่นั่นอยู่ที่การตัดสินใจของเขา เราจึงต้องทำ! ทั้ง ๆ ที่กลัว
เราพบว่าวงการหนังสือเป็นเหมือนระบบนิเวศน์ที่ขาดผู้เชื่อมต่อห่วงโซ่ในหลาย ๆ ช่วง มีหนังสือดี ๆ เยอะแต่ไม่ค่อยมีคนอ่าน มีนักเขียนเก่ง ๆ แต่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก ทันที่พวกเราได้ทำการเชิญพี่นักเขียนหนังสือขายดีเล่มหนึ่งมา ท่านก็ตอบรับทันที เพราะนักอ่านคือพลังงานของนักเขียนนั่นเอง ไม่ว่าจะยุ่งขนาดไหน แต่ถ้ามีใครที่ชื่นชอบผลงานของคุณซัก 10 คนตั้งหน้าตั้งตารออยู่ แน่นอนว่าคุณต้องอยากเจอแน่นอน
เราจึงมีสมาชิกเพิ่มขึ้นแบบอัตโนมัติ เพราะเป็นแฟนเพจ แฟนหนังสือของนักเขียนท่านนั้น ๆ ที่ตามมา ทุกครั้งที่พวกเราโพสรูปบน Facebook จะมีเพื่อน ๆ มาดูมา Comment กันว่าคราวหน้าจะมาให้ได้ เราเหมือนได้เชื่อมต่อระบบนี้ให้ชัดเจนขึ้นแถมยังได้รู้จักเพื่อนใหม่มากขึ้นอีกด้วย
จนถึงวันนี้พวกเราเดินทางมาถึงปีที่ 3 มีสมาชิกแฟนเพจกว่า 5,000 คน มีหนังสือที่พวกเราร่วมเขียนกับนักเขียนชื่อดังคือ คุณบัณฑิต อึ้งรังษี มีรายการทีวีชวนอ่านที่พวกเรามีส่วนร่วมได้สร้างสรรค์ออกอากาศทางช่อง Thai PBS ชื่อรายการ “เปิดโลก เปิดเล่ม” ถือเป็นความสำเร็จเล็ก ๆ น้อยที่พวกเราได้ร่วมกันก้าวเดินมา จะเรียกได้ว่าสิ่งนี้คือ …อนุสาวรีย์ของชีวิต… ก็คงจะไม่ผิดนัก พวกเราหวังเพียงแต่ว่าจะเป็นฟันเฟืองเล็ก ๆ ช่วยผลักดันให้เมืองไทยของเรามีวัฒนธรรมการอ่านเกิดขึ้นอยากจริงจังและยั่งยืนต่อไป
รัก…Book Lover Club (Thailand)