“The Steve Jobs Way วิถีแห่งสตีฟ จอบส์” เพิ่งมีโอกาสได้อ่านหนังสือเล่มนี้หลังจากอยู่ในตู้มากว่า 1 ปี แป๋งอาจจะจำไม่ได้ทั้งหมดว่าในหนังสือเขียนอะไรนะคะ เพราะปรกติเวลารีวิวหนังสือจะเอามาจากความรู้สึก สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นขณะอ่านหนังสือเล่มนี้คือ รู้สึกเลยว่าเข็มสั้นของนาฬิกาวิ่งเร็วมาก ๆ ก้มหน้าลงมองแป๊ปนึงผ่านไป 1ชม.แล้ว!!! สนุกมาก ๆ สำหรับคนที่สนใจเรื่องของพ่อมดแห่ง Silicon Valley คนนี้
“The Steve Jobs Way วิถีแห่งสตีฟ จอบส์” เขียนโดย เจย์ เอลเลียต อดีตรองประธานอาวุโสของแอปเปิ้ล ร่วมกับ วิลเลียม แอล. ไซมอน เนื้อหาในหนังสือนำให้เราเข้าไปในเหตุการณ์เปลี่ยนโลกในขณะต่าง ๆ ที่ดูตื่นเต้นตลอดเวลาอาจจะเป็นเพราะผู้ที่ถ่ายทอดคือคนที่อยู่เหตุการณ์จริงกับสตีฟ ในขณะที่เขาตัดสินใจทำเรื่องใหญ่ ๆ ก็เป็นได้ เลยเล่าได้แบบเห็นภาพและเขาจะมีมุมมองต่อเรื่องนั้น ๆ ของได้เป็นอย่างดี ไม่ใช่จะดีไปทุกอย่าง บางอย่างที่ไม่ถูกต้องเขาก็ชี้แจงให้เห็น
จะเห็นได้ตลอดเวลาว่า ผู้เขียน เจย์ เอลเลียต ถึงแม้จะอาวุโสกว่าสตีฟหลายปีมาก ๆ ประสบการณ์ในการทำงานมากกว่าแต่เขาเป็นนักเรียนที่ดีคนหนึ่ง ที่คอยสังเกต คอยดูวิธีคิด วิธีบริหารงานภายใต้การตัดสินใจของสตีฟ ตลอดเวลา คงไม่ผิดถ้าจะบอกว่าหนังสือเล่มนี้น่าจะมาจากสมุดโน้ต ในหัวของเขาเองเขา
ตอนแรกคิดว่าหนังสือเล่มนี้น่าจะเหมาะกับผู้บริหารเพราะเป็นการพูดถึงภาพรวมของทั้งหมดของแอปเปิ้ล มุมกว้าง ๆ เกี่ยวกับวิสัยทัศน์ในการบริหารงานและการนำพาองค์กรขึ้นเป็นบริษัทระดับแนวหน้า แต่พออ่านจริง ๆ แล้วต้องบอกว่า หนังสือเล่มนี้คือหนังสือสร้างแรงบันดาลใจดี ๆ อีกเล่มหนึ่ง เหมาะกับทุกคนเลยค่ะ
โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่กำลังจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำองค์กร ผู้นำประเทศ ผู้ที่ต้องการสร้างสรรค์ผลงานที่โดดเด่น หรือแม้แต่ผู้ที่ไม่มีความฝันเลยก็ควรอ่าน เพราะคุณจะได้เห็นตัวอย่างของคนที่มีความสุขที่ได้กอดความฝันของเขาตลอดเวลา
ทำในสิ่งที่รัก
สตีฟสอนให้เราเข้าใจว่า วันนี้ถ้าคุณจะสร้างอะไรขึ้นมา สิ่งแรกเลยที่ต้องถามตัวเองคือ คุณรักมันหรือเปล่า? คุณบ้าคลั่งมันขนาดไหน! คุณมีความสุขเวลาที่พูดถึงมันไหม? คุณจะทำทุกอย่างเพื่อให้มันออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ชั้นเลิศโดยที่ไม่มีข้อแม้ได้หรือไม่? คุณจะทำทุกอย่างและทุกคนทุ่มเทเพื่อมันเหมือนคุณได้หรือไม่? สิ่งนี้คือสิ่งที่สตีฟชัดมาก!
คนเก่งนำพาคนเก่ง
สิ่งหนึ่งที่โดดเด่นมากในหนังสือเล่มนี้คือการเลือกคนเก่งมาทำงาน ที่แอปเปิ้ลจะมีแต่พนักงานเกรดเอเท่านั้น เขาตั้งชื่อบทว่า “คนเก่งคือพระเจ้า” เพราะคนเก่งก็จะรู้จักคนเก่งและนำคนเก่งมาทำงานได้ สตีฟเอาผลิตภัณฑ์ในฝันของเขาเป็นตัวตั้ง แล้วเที่ยวเสาะแสวงหาบุคคลที่เป็นเลิศในสาขาต่าง ๆ มาร่วมงาน หากเขารู้ว่าเขาขาดใครเขาจะหาข้อมูล ติดต่อและไปสัมภาษณ์ด้วยตัวเอง ไม่ว่าคน ๆ นั้นจะอยู่ในองค์กรที่ดีอยู่แล้ว เขาจะมีความสามารถในการโน้มน้าวให้คนเชื่อในสิ่งที่เขานำเสนอ สิ่งที่สตีฟต้องการไม่ใช่แค่ความรู้เชิงเทคนิคเท่านั้น แต่เขาต้องแน่ใจว่าบุคคลผู้นั้นที่จะมาเป็นทีมเขากับเขาในอนาคตที่มีจิตวิญญาณในการต้องการเปลี่ยนโลกเหมือนกันหรือไม่? หลงใหลในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ที่ยังไม่มีในโลกนี้เหมือนเขาหรือไม่? เพราะเขามีคำพูดที่พูดกันในแอปเปิ้ลว่า
“ถ้าคุณมาทำงานวันเสาร์ไม่ได้ คุณก็ไม่ต้องทำเลยในวันอาทิตย์”
ถ้าคุณเป็นธรรมดา คุณก็ทำงานในองค์กรที่ไม่ธรรมดาไม่ได้ สนุกจริง ๆ ค่ะและยังมีอีกหลายมุมคิดดี ๆ ในหนังสือเล่มนี้ที่จะเป็นแบบอย่างให้ทุกคนที่ตั้งใจคิดจะทำอะไรตามที่หัวใจเรียกร้องแนะนำค่ะ มันต้องอ่านจริงๆ
